Musical เพลง
Musical เพลง เพลงไพเราะขั้นสุด กับ Musical เริดๆที่เข้าชิงราวัล MTV พร้อมผลผู้ชนะ เพิ่งจะจบงานไปหมาดๆกับ MTV Movie & TV Awards 2017 ซึ่งเป็นงานประกาศในที่สุดของภาพยนตร์ แล้วก็รายการทีวีต่างๆซึ่งผู้ที่มาร่วมงานส่วนมากจะมาจากแวดวงภาพยนตร์รวมทั้งรายการทีวี แน่ๆว่าไฮไลท์ของงานต้องอยู่ที่การประกาศผลรางวัลในแต่ละสาขา โดยสาขาที่พวกเรามีความสนใจมากๆเป็น Musical เพลง ด้วยเหตุว่าตอนหลายปีที่ผ่านมา ภาพยนตร์หรือรายการทีวีจะมีการนำดนตรีเข้ามาประกอบกิจการดำเนินเรื่องราวซึ่งเป็นที่นิยมมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ในต่างแดนเอง ให้ความสนใจวิธีการทำภาพยนตร์แล้วก็ละครแนวนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะช่วยบรรเทาดูได้เพลิดเพลินๆก็ยังสร้างชื่อให้กับดาราเป็นอย่างยิ่ง พร้อมได้แสดงศักยภาพของดาราเองอีกด้วย และก็ในปี 2017 นี่เองในงานประกาศผลรางวัล MTV Movie & TV Awards ได้ประกาศผู้เข้าขิงมาเป็นที่เป็นระเบียบ ดังเช่นว่า “Beauty and the Beast” จากภาพยนตร์เรื่อง Beauty and the Beast Musical เพลง โดย Ariana Grande และ John Legend
Endless (2020)
เรื่องย่อ : เมื่อไรลีย์ จบมัธยมศึกษาตอนปลายที่มีความรักอย่างคุ้มคลั่งรวมทั้งคริส จะต้องจากจากอุบัติเหตุทางรถยนต์อันน่าห่อเหี่ยวใจ ไรลีย์โทษตนเองที่เป็นสาเหตุให้แฟนของคุณเสียชีวิต ในขณะที่คริสติดอยู่ในบริเวณขอบเกลื่อนกลาด ทั้งคู่เจอแนวทางเชื่อมต่ออย่างแปลก ในเรื่องราวความรักที่อยู่เหนือความเป็นแล้วก็ความตาย
อีกทั้งไรลีย์และก็คริสถูกบังคับให้ทำความเข้าใจบทเรียนที่ยากที่สุดของทั้งหมดทั้งปวง โน่นเป็น การปล่อยวาง ไรลีย์ และก็คริส สองคนจบมัธยมปลายที่มีความรักอย่างคุ้มคลั่ง แต่อุบัติเหตุทางรถยนต์ที่น่าสงสารทำให้พวกเขาแยกทางกัน คุณโทษตนเองที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควรจะของแฟนชายหนุ่มในเวลาที่เขาติดอยู่ในรอบๆขอบเกลื่อนกลาด ทั้งคู่เจอวิธีเชื่อมต่อใหม่อย่างน่าพิศวง
ถึงแม้หนังเพลงจะไม่ใช่แนวที่ฮอลลีวู้ดขยันสร้างมาบ่อยนัก เหตุเพราะไม่ใช่แนวที่จะมีผู้ชมในวงกว้างและก็ช่องทางที่จะก้าวขึ้นมาเป็นหนังทำเงินสร้างกำไรให้ผู้ผลิตแทบจะเป็นไปได้ยาก แต่ละปีเราจึงไม่ค่อยเห็นหนังเพลงออกมาให้มอง บางปีก็แทบจะเป็นศูนย์ แต่ทุกครั้งที่หนังเพลงออกสู่ตลาดก็ชอบไปได้ดีในสายล่ารางวัลเนื่องจากว่าหลายๆเรื่อง
ถึงแม้ไม่ได้เงินแต่ก็ครอบครองรางวัลกลับมาให้ทีมผู้ผลิตรวมทั้งสตูดิโอเจ้าของหนังได้ชื่นมื่นกันไป ดังเช่นปีที่แล้ว LA LA Land ก็ปัดกวาดรางวัลแล้วก็เสียงชื่นชอบกลับไปหนาหู มาปลายปีนี้ก็มี The Greatest Showman ที่ฮิวจ์ แจ๊คแมน ออกมาร้องเล่นเต้นระบำให้เราได้มองกัน ก็ได้รับเสียงตอบรับในทางบวกกลับไปพอควร ถึงฉากอลังการและก็เพลงลื่นหูในหนัง ถึงตรงนี้เราลองย้อนกลับไปดูซิ ว่าตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ฮอลลีวู้ดสร้างหนังเพลงเรื่องไหนที่น่าประทับใจให้สมควรแก่การจดจำออกมาแล้วบ้าง
Rocky Horror Picture Show (1975)
เป็นหนังเพลงที่กลายเป็นหนังคัลต์ มีผู้ชมเฉพาะกลุ่มลุ่มหลงอยู่มาก ตอนนี้หนังยังคงกลับมาเล่นเป็นละครเวทีกันตามเมืองเล็กๆผู้ชมก็ได้กลับไปรื้อฟื้นบรรยากาศน่าหวาดกลัวด้านในแมนชั่นของ ดอกเตอร์แฟรงเคนเฟอร์เธอร์ที่แบรดและก็เจเน็ตสามีภรรยาหัวแข็งได้หลงเข้าไปพักที่นั่น รวมทั้งได้เจอกับคืนอันน่ากลัวอันไม่ทราบลืม
Grease (1978)
อีกหนึ่งหนังเพลงอมตะชั่วกับชั่วกัลป์ ผู้คนในยุค 70s รัก Grease เพราะว่าเพลงที่ติดหู ท่าเต้นอันเป็นเอกลักษณ์ การเลือกเฟ้นดาราหนังที่เข้ากับบทบาทโดยเฉพาะอย่างยิ่งคู่นักแสดงนำอย่างจอห์น ทราโอ้อวดลต้า และ โอลิเวีย นิวตันจอห์น ที่ร้องเล่นเต้นคุ้นเคยจริง และก็รูปร่างและการแต่งตัวที่แปลงเป็นแฟชั่นฮิตในเวลาถัดมา
Hedwig and the Angry Inch (2001)
งานโชว์สมรรถนะของ จอห์น คาเมรอน ไม่ตเชลล์ ที่เหมารวมหมดทั้งเขียนเรื่อง ดูแลและแสดงนำเอง เขารับบทบาทเป็นเฮดวิกตัวเอกตามชื่อ นักร้องนำวงร็อคจากเบอร์ลินทิศตะวันออกที่ติดตามความฝันตัวเองด้วยการแปลงเพศแล้วก็ออกทัวร์ในประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยเพลงที่เล่าราวชีวิตของเธอเอง ระหว่างทัวร์การแสดงดนตรีเฮดวิกก็จำเป็นต้องพบสมัยก่อนคนรักที่เคยจัดตั้งร่วมกับเธอ แล้ววันนี้ก็เอาเพลงที่คุณเขียนมาเล่นในชื่อวงใหม่ของเขาเอง
Moulin Rouge (2001)
ผลงานของผู้กำกับบาซ เลอห์มานน์ ผู้เป็นที่ยอมรับในแวดวงกับฝีมือควบคุมหนังเพลง ในประเด็นนี้ บาซ นำเพลงป๊อปคลาสสิกผลงานของ เอลตัน จอห์น รวมทั้ง เดอะ โปลิซ กลับมาทำใหม่และก็ใส่ลงไปในเรื่องราวของหนังได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ หนังย้อนไปเล่าราวในปี 1899 ยวน แม็กเกรเกอร์ สวมบทบาทเป็น คริสเตียน หนุ่มผู้เขียนผู้ดีอังกฤษ ที่มาหลงรัก ซาติน หญิงงามเมืองขั้นสูงในคลับกังหันแดงแหล่งพบปะของเหล่าไฮโซในปารีส แม้กระนั้นความรักของทั้งสองก็เจอปัญหาจากเดอะ ดูค ผู้เลี้ยงดูคลับกังหันแดงที่หมายปองในตัวซาตินเช่นเดียวกัน
Chicago (2002)
หนังเพลงที่สร้างปรากฎการณ์ครั้งใหญ่ด้วยการประสบความสำเร็จทั้งยังด้านรายได้รวมทั้งรางวัล เว้นเสียแต่ 6 ออสการ์แล้วยังคว้ารางวัลจากเวทีอื่นอีก 52 รางวัล รวมทั้งกวาดรายได้ไปแบบถล่มทลายถึง 306 ล้านเหรียญจากทุนสร้างเพียงแค่ 45 ล้าน หนังเล่าเรื่องราวของแวดวงเพลงแจ๊สในชิคาโกยุคปี 1922 โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ 2 ผู้แสดงนำฝ่ายหญิง เรเน เซลวีเกอร์ แล้วก็ แคทเธอรีน ซีต้า-โจนส์ ในบทสองนักโทษประหารในคดีฆาตกรรม ที่ต่างแก่งแย่งชิงดีกันเพื่อสร้างชื่อเสียงให้ตนเองก่อนจะถึงวันที่ต้องถูกประหารด้วยการห้อยคอ
The Queen’s Gambit
เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่มาแรงที่สุดในปีนี้ เว้นแต่บท แคสต์ และภาพที่งามพอดีไปหมดทุกอย่างแล้ว ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่าเพลงประกอบในประเด็นนั้นส่งผลต่ออรรถรสสำหรับการรับชมสิ่งเดียวกัน โดย The Queen’s Gambit เกิดเรื่องราวของ ‘เบธ’ ผู้เล่นหมากรุกหญิงในช่วงสมัย 60s แน่นอนว่ามีต้องมีเพลงไพเราะๆจากระยะเวลานั้นเยอะไปหมดอย่างแน่นอน วันนี้ก็เลยขนเพลงน่าฟังจากในเรื่องมาให้ฟังกัน
เมื่อสูญเสียครอบครัว ชีวิตในวัยเด็กของเบธเลยลงเอยที่บ้านเมธูเอน – บ้านค้ำจุนกำพร้าหญิงล้วน ที่ๆทำให้เบธได้รู้จะกับหมากรุก ที่บ้านจะมีวิตามินแจกให้ทุกช่วงกลางวัน (ซึ่งจริงๆคือยาระงับประสาทประเภทหนึ่ง) เมื่อมาถึงวันที่ข้อบังคับสั่งให้ห้ามแจกยาชนิดนี้อีกต่อไป แน่นอนว่าเบธที่มีความรู้สึกว่าต้องใช้มันในทุกวี่ทุกวันนั้นเกิดความรู้สึกที่ว่าทนไม่ไหว จนถึงมาวันหนึ่งในตอนที่คนอื่นกำลังนั่งมองภาพยนตร์เรื่อง ‘The Rope’ อยู่ เบธตัดสินใจย่องออกมาจากห้องฉายภาพยนตร์แล้ววิ่งตรงไปที่ห้องแจกยา
แน่นอนว่าคุณทำทุกทางเพื่อจะไปให้ถึงโหลที่เป็นแก้วที่ใส่ยาแคปซูลสีเขียวที่เธออยากหนักหนา เพลงในฉากท้ายที่สุดของภาพยนตร์ก็ดังขึ้น มันก็คือเพลง Finale/Hallelujah จากเรื่อง The Rope ในปี 1953 ของ Twentieth Century Fox Film Corporation ในภาพยนตร์ก็ลุ้น สิ่งที่เบธทำก็ลุ้น เพลงช่วยกระตุ้นให้พวกเราใจเต้นตึกตักเรียกตัวละคร จนปิดในขณะที่ 1 ได้แบบต้องกดดูต่อจริงๆ
ซีรีส์เล่าไวไม่ปล่อยให้พวกเราจะต้องรอนาน มาถึงตอนที่ 2 เบธก็เติบโตอยู่ในวัยรุ่นตอนต้นแล้ว และก็เธอไม่ใช่กำพร้าที่บ้านเมธูเอนอีกต่อไป เนื่องจากว่ามีคนมาค้ำจุนไปแล้วเป็นระเบียบ เรื่องราวของเบธก็แปลงสถานที่เป็นบ้านสีฟ้าอมเขียวแสนอบอุ่น (?) เพลงดังขึ้นในฉากที่เบธตื่นแล้วเดินลงมาเจอ อัลมา – แม่ที่รับอุปถัมภ์ค้ำชูเธอมา เล่นเปียโนเพลงนี้อยู่ อัลมา เป็นอีกหนึ่งบุคคลที่มีความจำเป็นต่อชีวิตเบธมากมายตลอดทั้งเรื่องหลังจากนี้
